นายสาธิต พลอยดี คนกล้าคืนถิ่น 2/1 การศึกษา ป.ตรี สาขาสัตวศาสตร์ อาชีพส่งเสริมการเกษตร,ค้าขายพันธุ์สัตว์,ธุรกิจส่วนตัวค้าส่งชิ้นส่วนไก่สด
นางสาวศิริลักษณ์ พลอยดี คนกล้าคืนถิ่น 2/1 การศึกษา ป.ตรี สาขาสัตวศาสตร์ ,กำลังศึกษา ป.โท บริหารธุรกิจ อาชีพ ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์นมสำหรับสัตว์ ค้าเวชภัณฑ์สัตว์
เริ่มต้นอาชีพเกษตรกรอย่างจริงจัง เมื่อหลังแต่งงาน ย้ายมาลพบุรี อยู่บนผืนดินเปล่าของครอบครัวที่ปล่อยให้คนมาเช่าทำไร่อ้อย
จึงเช่าช่วงต่อจากผู้เช่าคืนอีกทีเพื่อเริ่มลงแปลง สร้างฟาร์ม เดิมทีแล้วครอบครัวเคยทำอาชีพเกษตรกรฟาร์มโคนมและไร่มาก่อน
แต่ประสบปัญหาโรคระบาดประกอบกับคุณพ่อหัวหน้าครอบครัวป่วยหนัก. จึงตัดสินใจเลิกอาชีพเพราะคุณแม่ดูแลไม่ไหว
และหวังว่าเมื่อลูกเรียนจบเกษตร ลูกจะกลับมาพลิกฟื้นพัฒนาบ้านให้ได้ ด้วยความรู้สมัยใหม่ กับประสบการณ์เดิม คงทำให้ไม่ล้มลงอีก
พร้อมกับการได้เข้าร่วมอบรมกับโครงการคนกล้าคืนถิ่นปีที่2 ทำให้ยิ่งเกิดความมั่นใจ และมีกำลังใจขึ้นมา มีเพื่อนให้อุ่นใจ คอยให้กำลังใจ
มีความมุ่งมั่นที่จะนำสิ่งที่ตนมี ลุยงานเกษตรที่บ้านให้ได้ ตามกำลังความสามารถ
เมื่อกลับมาบ้านได้ทำการปรับพื้นที่โดยวางแผนคร่าวๆว่า ทำส่วนฟาร์มสัตว์ แปลงหญ้าอาหารสัตว์ สวนผัก สวนผลไม้ บ่อกักเก็บน้ำและเลี้ยงปลา ขอบบ่อปลูกไม้ป่า ไม้ยืนต้น
เมื่อสร้างเล้าไก่แล้ว ก็ดำเนินการขนย้ายไก่ จากเดิมเลี้ยงที่ฉะเชิงเทรา พร้อมต่อคอกแพะในชายคาเดียวกัน มีexotic pet บ้าง นกสวยงาม บางส่วน ที่เป็นรายได้เข้ามาเรื่อยๆ
โดยขายผ่านช่องทางออนไลน์ และส่งตลาดสัตว์เลี้ยงเช่น คลองถม , จตุจักร บ้างก็เดินสายประกวดไก่ ตามวาระโอกาส
ที่ดินที่เคยปล่อยเช่า ดินเริ่มแข็งจึงปรับปรุงดินในเบื้องต้นด้วยการโรยปุ๋ยคอกจากมูลสัตว์ในฟาร์ม ปลูกปอเทืองแล้วไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด เดินระบบน้ำหยด
เพื่อลดเวลาการทำงาน และประหยัดน้ำด้วย ปล่อยพันธุ์ปลาลงบ่อ ให้อาหารโดยใช้เศษอาหารจากเล้าไก่ไปหว่านบ่อปลา
แบ่งเวลาจากงานฟาร์มมาลงแปลงพืช เช่นปลูกหญ้าเพื่อขายท่อนพันธุ์เป็นรายได้เสริม และเป็นแหล่งอาหารสัตว์
ปลูกข้าวโพด เอาฝักมาทานในครอบครัว แจกจ่าย จำหน่าย ต้นที่เหลือให้แพะ ให้วัว ปลูกผักสวนครัว ไว้ประกอบอาหารในครอบครัว
และบางส่วนก็ให้แม่ไปทำอาหารขาย(แม่เปิดร้านอาหาร) ลดต้นทุนค่าผัก และส่งเสริมให้ลูกค้าได้ทานผักปลอดสาร ในราคาถูก คนปลูกก็สุขใจ
จากนั้นเริ่มสะสมเมล็ดพันธุ์แท้พันธุ์พื้นบ้าน แบ่งปันเข้าธนาคารเมล็ดพันธุ์แผ่นดิน เพื่อความยั่งยืนของพันธุกรรม
ปัจจุบัน ศิริลักษณ์ ยังประกอบอาชีพผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์สัตว์ และนมสัตว์ ดูแลเขตภาคกลาง ภาคตะวันออก ใช้เวลาว่างอยู่ที่ฟาร์มกับครอบครัว
และให้ความรู้ด้านสัตวศาสตร์กับชุมชนผู้เลี้ยงสัตว์มาตลอด โดยไม่ละทิ้งอาชีพเกษตรกร มีความสุขที่ทานอาหารปลอดภัยจากที่ปลูกเอง
สาธิต นอกจากดูแลงานฟาร์มและแปลงเกษตรที่บ้าน ได้แบ่งเวลาเป็นหน่วยส่งเสริม ให้คำแนะนำด้านการดูแลสัตว์ การสุขาภิบาล
และช่องทางจัดจำหน่ายให้แก่เกษตรกรพื้นที่ภาคกลาง-ภาคเหนือตอนล่าง เป็นคณะกรรมการในชมรมต่างๆเช่น ชมรมซารามอ ชมรมไก่สวยงามต่างประเทศ ชมรมเอกลักษณ์สุนัขไทยหลังอาน
และเพาะเลี้ยงสุนัขเพื่อการอนุรักษ์และแบ่งจำหน่าย พร้อมกับนำสุนัขเข้าร่วมโครงการblood bank กับโรงพยาบาลสัตว์เพื่อให้เลือดแก่สุนัขที่ต้องการเลือดในการรักษา
บทสรุป ความรู้สึกในช่วงเวลา 1 ปีเต็มที่ทำเกษตรอย่างจริงจัง ในความเหนื่อย มีความสุขใจ การมีประโยชน์กับส่วนรวมเป็นเรื่องที่ดีใจมาก ที่ได้ทำตามกำลังความสามารถความรู้ที่มี
กล้าที่จะทิ้งชีวิตแบบเดิม มาลุยงานเกษตรด้วยกัน มันสนุก ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า ได้ดูแลสุขภาพกัน ได้เห็นแม่ยิ้มให้ทุกวันเวลาดูลูกๆนุกกับงาน มีกิจกรรมทำร่วมกัน
บางอย่างที่ทำก็เป็นรายได้เข้ามาอย่างที่คาดไม่ถึง จากที่เคยจ่ายเงินซื้อสุขภาพดีๆ ตอนนี้สามารถเลือกทานอาหารดีๆที่ปลูกเองปรุงเอง ทุกเมนูมักมาจากสองมือปลูก สองมือปรุง
สุขภาพดีขึ้น จากเดิมที่เป็นภูมิแพ้และข้อเข่าเสื่อม พอเจออากาศบริสุทธิ์ ได้ว่ายน้ำบ่อหลังบ้าน ประหยัดค่าฟิตเนสไปเยอะเลย มีชีวิตง่ายๆที่คนในเมืองถวิลหา
ทุกครั้งที่หิ้วผักจากบ้านไปฝากเพื่อนๆที่กรุงเทพฯ ทุกคนรอคอยผักอินทรีย์จริงๆจากเรา อิ่มพุง และอิ่มใจกันทุกคน555 รายจ่ายลดลง
คาดว่าระยะยาว คงพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ทำประโยชน์ได้มากขึ้นจากความรู้ที่มี
ใครๆก็เป็นเกษตรกรได้ ^_^ ถ้าใจสู้