คนกล้าคืนถิ่น

วิสุนันท์ คุ้มอยู่

  • คนกล้าสุพรรณบุรี
  • เว็บไซต์ :
  • Facebook : Visunan kumyu

เกษตรกรวันหยุด 

วิสุนันท์ (ลูกเจี๊ยบ) ปัจจุบันยังเป็นพนักงานประจำบริษัทแปรรูปอาหารยักษ์ใหญ่ พร้อมกับเป็นเกษตรกรไปด้วย 

ครอบครัวเราเคยเป็นเจ้าของสวนทุเรียนนนท์ แต่เส้นทางเกษตรกรของครอบครัวต้องจบลงเมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2538 สวนทุเรียนนนท์ต้องถูกทิ้งร้าง พ่อและแม่ไปทำงานรับจ้างส่วนตัวเองไปเรียนต่อจนจบปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ แล้วเข้าทำงานเป็นลูกจ้างตามที่เขาทำๆกัน งานมีความเครียด กดดัน การเมืองในที่ทำงาน เปลี่ยนงานบ่อย แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้มีประสบการณ์หลายๆด้าน แต่อยากออกมาจากระบบมนุษย์เงินเดือนเพราะเห็นว่าไม่มั่นคง คือ วันหนึ่งเราก็ต้องเกษียรอยู่ดี ถามตัวเองว่าเกษียรแล้วจะทำอะไร ได้คำตอบว่าอยากทำเกษตรมีความสุขในสวนเหมือนเมื่อตอนเด็กๆ  แต่พบว่าไม่มีทุนที่เป็นเงิน เรามองหาทรัพย์สินอื่นๆที่มีจึงมองเห็นว่าเรายังมีที่ดิน มีความรู้ และยังพอมีเวลา  จึงเริ่มทำทีละเล็กทีละน้อยในวันหยุดตอนแรกพ่อกับแม่ก็ไม่เห็นด้วยนะ เพราะคิดว่าเราเป็นผู้หญิงจะมาทำงานหนักๆไม่ไหว

มีพื้นที่อยู่ประมาณ 1 ไร่ จึงเริ่มจากแปลงผักสลัดไฮโดรโปรนิคแปลงเล็กๆที่ดูแลง่ายทำให้เค้าเห็นว่ามันเป็นไปได้ ตอนแรกที่เห็นเราเอาผักมาปลูกในน้ำก็ว่าเรา "บ้า" นะแต่พอผักโต "โอ้โห" มันสวยมาจับจองกันใหญ่ แล้วพอขายได้อีกทุกคนก็เริ่มเห็นด้วย เข้ามาช่วยทำ ช่วยขาย ได้เงินไม่เยอะนะแต่มีความสุขมาก  ต่อมาก็ลองเปิดก้อนเห็ดโรงเล็กๆ  แม่มีเรื่องไว้คุยกับเพื่อนอีกเยอะเลย 

พอได้รู้จักกับโครงการคนกล้าคืนถิ่น ยิ่งทำให้มั่นใจว่าเราไม่ได้เดินคนเดียว มีเพื่อนร่วมทางมากมาย มีคนที่คิดเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้กัน ส่งข่าว แลกเปลี่ยนความรู้ ไปเยี่ยมไปเยือน เป็นสังคมที่ดีเข้มแข็ง เราแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์กับเพื่อนๆ ลองปลูกฟักทอง ถั่วแดงญี่ปุ่น  มะเขือเทศ มันญี่ปุ่น ข้าวโพดเทียน ผักบุ้ง คือเลือกปลูกพืชระยะสั้น-กลาง เอาที่เก็บเกี่ยวได้เร็วเพราะบริบทพื้นที่เรามันน้ำท่วมช่วงฤดูน้ำทุกปี  จะไปปลูกไม้ผลปลูกทุเรียนไม่มีทางได้กิน

ตอนนี้เราสะสมเงินจาการเป็นลูกจ้างซื้อที่ดินผืนใหม่ที่น้ำไม่ท่วมไว้ที่สุพรรณบุรี 4 ไ่ร่ ปลูกผลไม้ทุกอย่างที่อยากกิน  สมุนไพร  เลี้ยงปลา และเตรียมพื้นที่สำหรับปลูกบ้าน ให้พ่อที่เกษียรแล้วคอยดูแลให้ พ่อมีความสุขมากได้ใช้ชีวิตอย่างที่เราฝันเป็นคนแรก  คือตอนแรกแกก็ไม่อยากไปนะคิดน้อยใจว่าเราทิ้งแกให้ไปลำบากเฝ้าสวนคนเดียว ตอนนี้ทุกคนอิจฉาพ่อกันหมดกลายเป็นสบาย ชิล สุดๆ  

ผลผลิตที่ได้เราเอามาแปรรูปได้ทั้งหมดด้วยทักษะจากการเรียน การทำงาน และ การถามgoogle  เช่น ไวน์ผลไม้  กล้วยกรอบ  เค้กกล้วยหอม ชิฟฟอนใบเตย มัลเบอร์รี่3รส  น้ำว่านหางจระเข้  สบู่ว่านหางจระเข้  แยมมะนาว สลัดม้วน คุ๊กกี้ฟักทอง ชาใบหม่อน ฯลฯ  แล้วแต่ว่ามีผลผลิตอะไรออกมาช่วงนั้น ขายได้หมดทุกอย่างแค่โพสต์ใน Faecbook ฝึกฝีมือไปเรื่อยๆ ไม่มีใครเก่งมาแต่เกิดหรอก หนทางกลับสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด กลับสู่วิถีเกษตรกร กำลังชัดเจนขึ้นทุกวันจากก้าวเล็กๆทีละก้าวด้วยสองขาของเราเอง ได้ทำสิ่งที่รักโดยที่ไม่ต้องรอเวลาเกษียร ไม่ต่องรอให้มีเงินเยอะๆ  ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากใหญ่โตหรอกทำให้ทุกวันมีความสุขก็พอแล้ว 

เพื่อนหลายคนถามว่าทำงานประจำอยู่เอาเวลาที่ใหนไปทำสวน ไปแปรรูปผลผลิต ตอบว่าก็ใช้วันหยุดวันอาทิตย์วันเดียวนี้แหละ เวลา 24 ชั่วโมงของเราวันเดียวมีค่ามากๆ เราวางแผนมาก่อนล่วงหน้าถึง 6 วัน ตัดสินใจเลยว่าอาทิตย์นี้จะทำอะไรบ้าง กลางวันทำงานให้บริษัทเต็มที่ กลางคืนทำงานที่ตัวเองรักทั้ง หาความรู้  จัดเตรียมอุปกรณ์ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ พอถึงวันหยุดเราก็ลงมือทำแต่เช้า เป็นกิจกรรมที่ทำไม่เคยเหนื่อย แต่สนุกและได้เงินจากการขายผลิตภัณฑ์เป็นค่าขนมอีกด้วย 

ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าเอามันไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เราสะดวกแบบนี้ คนอื่นก็อาจจะชอบทำงานoffice ไม่มีใครผิด-ถูก  ชีวิตพอเพียงไม่ได้หมายความว่าต้องมาปลูกผัก คนปลูกผักทำสวนก็ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นคนจน เราสามารถมีได้รวยได้ตามฐานะตามกำลังสติปัญญาไม่โลภมาก เมื่อมีแล้วก็แบ่งปันเอื้อเฟื้อผู้อื่น   เรามีเวลาไม่มากนักในชีวิตนี้อยากทำอะไรก็ลงมือเลยอย่ามีข้ออ้างมาก ทำอะไรให้เรียบง่าย ตรงไปตรงมา ไม่รู้ก็ไปหาผู้รู้  ไม่เคยทำก็ลองซะ หาตัวเองให้เจอ  แต่วันนี้เรารู้แล้วว่าเรามีความสุขกับการเป็นเกษตรกรได้อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับครอบครัว 

UP DATE ณ  8  ตุลาคม 2019

    บันทึกไว้ให้เป็นตำนานของคนอยากกลับบ้านอยากคืนถิ่น จำที่ดินที่เราซื้อไว้ 4 ไร่ที่สุพรรณบุรีได้มั้ย ปลายปี 2018 เรากับครอบครัวตัดสินใจใช้เครดิตจากการเป็นพนักงานประจำทำเรื่องกู้เงินจาก ธอส. เพื่อปลูกบ้านในฝัน ยอมแลกอิสระภาพยอมเป็นหนี้หลักล้านในวันที่ยังมีเงินเดือนSupportชีวิตอยู่ ตอนนี้เราปลูกบ้านสำเร็จแล้วนะ  29 มี.ค 2019 เราพาครอบครัวย้ายถิ่นจาก จ. นนทบุรี มาอยู่สุพรรณบุรีเรียบร้อย

มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนฝันไม่คิดว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้ต้องขอบคุณครอบครัวจริงๆที่สนับสนุนให้ใจกับเรา มาอยู่ที่นี้แรกๆแทบไม่รู้จักใครต้องปรับตัวเยอะมากแต่ตอนนี้พอจะมีเพื่อนบ้านบ้างแล้ว หลานสาววัย 10 ขวบตั้งคำถามว่าทำไมครอบครัวเราต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ ใช่เราพาเค้าทิ้งจากความเจริญในเมืองนนท์มาอยู่ในที่ที่มีแต่ทุ่งนา ไม่มีห้างสรรพสินค้า ไม่มี 7-11 การเปลี่ยนแปลงที่เด็กๆไม่เข้าใจ แต่ทว่าตอนนี้เค้ามีความสุขกับพื้นที่กว้างๆ ธรรมชาติสดชื่น พอบอกว่าจะส่งไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯกลับบอกว่าไม่อยากไปแล้ว   เราส่งครอบครัวไปอยู่ที่บ้านสวนแต่เรายังต้องทำงานในกรุงเทพฯเพื่อให้มีทุนไปทำสวนให้สำเร็จให้พอมีรายได้จากผลผลิตในสวนชัดเจนกว่านี้สักหน่อย ให้มีช่องทางชัดเจนอีกนิด ไม่อยากให้พ่อแม่ลำบาก วางใจว่าวันหนึ่งต้องได้คืนถิ่นแน่นอน อย่างน้อยตอนนี้ก็มีบ้านให้กลับทุกวันอาทิตย์ ใช่เราขับรถจาก กทม. เย็นทุกวันเสาร์ระยะทาง 200 km เพื่อกลับไปกินข้าวฝีมือแม่นอนกอดแม่แล้วตื่นเช้ามาชมแสงตะวันที่บ้านสวน ทำทุกอย่างที่อยากทำ และต้องตื่นตี 3 ของเช้าวันจันทร์เพื่อกลับไปทำงานอีก 6 วัน เราทำแบบนี้มา 7 เดือนแล้ว

เหนื่อยแต่มันมีความสุขมากๆยิ่งชัดเจนว่าอยากคืนถิ่นไม่กลัวความลำบากไม่ได้ถวิลหาความเจริญในกรุงเทพฯเลย เงินเดือนแต่ละเดือนรวมกับเงินที่เหลือจากการกู้มาปลูกบ้านเอามาลงทุนขุดบ่อบาดาล สร้างแปลงผัก วางระบบน้ำ ช่วงนี้รู้เลยว่าถ้าใจร้อนลาออกจากงานคงลำบากมาก ทำเกษตรมันต้องอดทนรอผลผลิตที่ไม่รู้ว่าจะได้อะไรเท่าไหร่และเมื่อไหร่ ยิ่งปีนี้ต้องเจอกับภาวะฝนขาดช่วง คลองชลประทานไม่มีน้ำ น้ำในสระแห้งถึงหัวเข่า ขนาดต้นไผ่ยังแห้งตาย มันสุดยอดสะเทือนใจจริงๆสำหรับเกษตรมือใหม่อย่างเราสงสารต้นไม้  ยังโชคดีที่ขุดเจอน้ำบาดาลได้ตาน้ำดีไว้ใช้ แล้วพอวันที่ฝนตกนะมันฟินมากๆ ช่วงนี้กำลังปลูกดอกไม้ที่หน้าบ้านหน้าหนาวปีนี้คงสวยมากเลย เพื่อนๆมาเที่ยวกันได้นะเราเตรียมไวน์กล้วยหอม ไวน์พุทธรา ไวน์กระเจี๊ยบ  ปลาเผาตัวอ้วนๆ ไว้ตอนรับ 

     มาถึงตรงนี้ชีวิตบนเส้นทางเกษตรกรแท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นยังต้องเจอกับบททดสอบอีกมากมายมีเรื่องที่ยังไม่รู้ทำไม่เป็นอีกมากทีเดียว กำลังใจนั้นสำคัญที่สุด ถ้าไม่ได้อยู่ในโครงการคนกล้าคืนถิ่นคงถอดใจไปแล้ว ความใฝ่ฝันของเราคือการได้กลับบ้านในวันที่พ่อ-แม่ยังอยู่ให้เราได้ดูแล เราอยากทำฟาร์มสเตย์น่ารักๆไว้เป็นที่พักใจ เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆได้ฮึดสู้ลุกขึ้นมาทำฝันใดๆก็ตามให้เป็นจริงจากการเดินทีละก้าว   

เกษตรไม่ใช่อาชีพ แต่ทุกอาชีพเป็นเกษตรกรได้ 

วิสุนันท์  คุ้มอยู่  (คนกล้าโหนด10 สุพรรณ-กาญฯ)