คนเฮียๆ มักมีดี

Lead  :  ขุ่นพระ !!!  เค้าชอบแหกกฏ เค้าเคยติดคุก วิญญาณฝ่ายดีถูกครอบงำจากสิ่งชั่วร้าย แต่ตอนนี้   หึหึ...ยิ้มอ่อนๆ  รึจะยิ้มแรงๆ ให้กับเค้าได้เสมอ เพราะเค้าค้นพบทางออก สู่อิสระภาพที่แท้จริงแล้ว

Quote  :  อยากทำงานตามใจตัวเอง ไม่อยากรับคำสั่ง ไม่ต้องทำตามเวลา  ไม่ต้องตอกบัตร เป็นนายตัวเอง เลี้ยงดูครอบครัวได้ เป้าหมายสูงสุด คือ มีกิน มีใช้ มีอิสรภาพทั้งชีวิต จิตใจ อย่างจริงจัง

Bio     :  ปอ เป็นคนที่แสวงหาอิสระในชีวิต ไม่ชอบฟังคำสั่งใคร ตอนเป็นเด็ก ทั้งดื้อและเกเร โดนไล่ออกจากโรงเรียนตั้งแต่ ม.ต้น ด้วยสารพัดข้อหา จนต้องมาเรียน กศน.ม.1 ที่กรุงเทพฯ  จบ ม.3 โดนจับข้อหามียาเสพติดในครอบครอง ติดคุก 5ปี 6 เดือน ตอนอายุ 17 ปี แต่ได้ลดโทษตามวาระต่างๆ จนอายุ 21 ปี จึงพ้นโทษ แต่ไม่นานก็กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ติดคุกอีก 3 ปี 11 เดือน แต่ก่อนที่จะเข้าคุก ภรรยากำลังตั้งครรภ์

   เมื่อออกจากคุกมา ลูกชายก็โตขึ้น แม่ก็แก่ลง ภรรยาก็ทิ้งไป คิดได้ว่า น่าจะตั้งหลัก เป็นที่พึ่งของครอบครัวได้แล้ว ก่อนหน้านั้น รู้จัก ดร.เกริก จากการที่มาบรรยายในคุก รู้สึกว่าอาชีพเกษตรกร มันตอบโจทย์ชีวิตได้ แต่ไม่มีความรู้ จึงไปขออยู่กับ ดร.เกริก2เดือน เพื่อเรียนรู้ จากนั้นก็เข้าโครงการคนกล้า รุ่นที่ 1 ทำให้ได้แนวคิด มีเพื่อน มีเครือข่าย กลับไปเริ่มต้นลงมือทำจริงที่บ้าน ในพื้นที่ 5 ไร่ ซึ่งอยู่ได้จริง เลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

   จากนักโทษมหาลัยกำแพงสูง กลายมาเป็น อาจารย์ในมหาลัยชีวิต สอนน้องๆ โครงการคนกล้ารุ่นใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และเกษตรนี่แหละ คืออิสระที่แท้จริง

อยากเป็นนายตัวเอง

คุณปัญญา กิริยา หรือ คุณปอ

ลูกศิษย์ของ ดร.เกริก มีมุ่งกิจ คุณครูแห่งโครงการคนกล้าคืนถิ่น

“เมื่อก่อนผมก็ฝึกงานกับ ดร.เกริก มีมุ่งกิจ มาก่อน เช่น การเผาถ่าน ทำปุ๋ย ทำดิน ปลูกต้นไม้ แปรรูปไม้ ก่อสร้าง โดย ดร.เกริกจะเป็นคนสอน คอยชี้แนวทาง และให้เราลองทำเอง ซึ่ง ดร.เกริกเค้าก็แนะนำชักชวนให้เข้าโครงการ ก็เลยลองเข้าโครงการดู” คุณปอ เล่าถึงจุดเริ่มต้นเข้าสู่วิถีคนกล้าฯ

พบว่าชีวิตเกษตรกร มีอะไรได้มากกว่าที่คิดอีก และพร้อมลงมือทำหลังเข้าร่วมการอบรมบ่มเพาะกับโครงการคนกล้าฯ เพราะอยากเป็นนายตัวเอง ด้วยวิถีเกษตร หลังจากไตร่ตรองเปรียบเทียบหลายช่องทางแล้ว

ปีแรกทำนากับหินลูกรังฝึกตัวเองเต็ม ๆ ได้เรียนรู้วิธีแก้ปัญหาดินที่บ้าน
ปีที่สองที่หว่านข้าตอนฝนหยุด และที่ติดกับป่ายูคาทำให้มันดูดน้ำไป ข้าวตายหมด
ทิ้งไว้ก็สูญเปล่า เลยไถดินรอฝนตกชุก ยังไงข้าวก็โต จะไม่ปล่อยให้ที่ดินว่าง ปลูกข้าแม้กระทั้งในร่องแปลงผัก
มันเป็นการเรียนรู้ และการลงมือทำที่สนุกและมีความสุขมาก ๆ

และการทำเกษตรนี้ทำให้ได้อยู่กับครอบครัว
ได้เผยแพร่ความรู้ให้ผู้อื่น ได้อยู่กับชีวิต กับธรรมชาติ ไม่ต้องดิ้นรน เร่งรีบ
เช้ามา ก็ถอนหญ้า พรวนดิน ปลูกผัก ชีวิตมันรู้สึกว่าสบาย ถึงจะร้อนจะเหนื่อย
แต่มันมีความสุขที่เห็นพืชผักหรืออะไรที่เราปลูกเจริญเติบโต … ยิ่งมีความสุข …

คุณปอกล่าว …

คุณปัญญา กิริยา (ปอ)
คนกล้าคืนถิ่น จ.สระแก้ว