พี่จริยะ เหนี่ยวบุปผา หรือ พี่น้อย ชายวัย 29
ผู้รักบ้านเกิดของตัวเองยิ่งกว่าสิ่งใด
เพราะสุรินทร์เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพี่น้อยมาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นย่า
ทำให้เค้าไม่คิดจะออกจากพื้นที่ไปไหนเลย
พี่น้อยพอจะมีความรู้ในการทำเกษตรเป็นพื้นฐานอยู่บ้าง เพราะพ่อแม่เคยจูงมือพากันทำตั้งแต่ยังเด็ก จากการเป็นเกษตรเชิงเดี่ยว ทำตามความรูสึก ตามความเคยชิน ทำตามวิถีดั้งเดิม ไม่กล้าที่จะเริ่มใหม่เปลี่ยนแปลงไปปลูกพืชชนิดใหม่ แต่เมื่อเข้าร่วมโครงการคนกล้าคืนถิ่น ก็ทำให้ได้เรียนรู้การทำเกษตรตามวิถี ตามยุคของโลกที่เปลี่ยนไป รู้จักการวางแผนล่วงหน้า และเริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
บนพื้นที่ทั้งหมด 14 ไร่ พี่น้อยแบ่งเป็นปศุสัตว์ ประมง พืชอายุสั้น พืชอายุยืน เพราะจะได้มีพืชสำรอง หมุนเวียนให้ตลาด มีการจัดแบ่งพื้นที่ มีบ่อน้ำส่วนตัวไว้ใช้ในฤดูแล้ง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแหล่งน้ำอื่น สนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนของการเกษตร
“ต่อให้เราอยู่ในนั้น 2 เดือน เราก็ไม่อดตาย เพราะเรามีปัจจัย 4 ทุกอย่างอยู่ในนั้นครบถ้วน” พี่น้อยบอก
ในทุกวัน … พี่น้อยทำงานสวนเป็นหลัก
เพื่อในอนาคตทั้งสวนและสัตว์จะได้ดูแลตัวเองได้
อีกทั้งยังพัฒนาองค์ความรู้ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
เพื่อที่จะถ่ายทอดให้แก่เกษตรกรรุ่นใหม่ ที่ต้องการกลับ คืนถิ่นของตัวเอง
พี่น้อยบอก … “เกษตรยั่งยืนสำหรับผม ผมมองไปที่องค์ความรู้ ถ้าจะยั่งยืนได้เราต้องมีองค์ความรู้พอสมควร เราไม่สามารถบอกได้ว่าปลูกอะไรจะยั่งยืน เพราะในโลกใบนี้ ภูเขา ที่ว่ายั่งยืนก็ยังสามารถพังทลายได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะอยู่กับเราจนวันตายคือ ความรู้ วิธีคิด วิธีจัดการ เกษตรยั่งยืนอยู่ที่วิธีคิดและองค์ความรู้ของแต่ละคน”
“ค้นหาตัวเองให้เจอ ถ้าเราเจอ และเชื่อมั่นว่า คือสิ่งที่เราต้องการ เราจะทำมันได้สำเร็จ”
จริยะ เหนี่ยวบุปผา
คนกล้าคืนถิ่น อ. พนมดงรัก จ. สุรินทร์