วันนี้เราพามาพบคนกล้าต้นแบบคุณชไมพร ศักดา อายุ 34 ปี ชาวอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เคยเป็นมนุษย์กินเงินเดือนรับจ้างจัดสวนแต่ได้พลิกผันลาออกจากงานประจำมาใช้พื้นที่ประมาณ 200 ตารางวามาดำเนินการปลูกพืชไม้ประดับผสมผสานกับพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร พร้อมเปิดร้านจำหน่ายเป็นของตนเองสามารถสร้างรายได้จุนเจือครอบครัวอย่างมีความสุข
คุณชไมพรได้กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นสาวโรงงานมาก่อน และจุดเปลี่ยนจากคนทำงานกินเงินเดือนมาทำงานด้านการเกษตร ด้วยเหตุผลเบื่อความแออัดเบื่อกับความวุ่นวายของแต่ละวัน ไม่มีเวลาดูแลครอบครัว จึงอยากจะกลับมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายตามวิถีชีวิตชนบทที่อยู่แบบสบายใจมีเวลาได้ดูแลครอบครัว ประกอบกับตนเรียนมาด้านการเกษตรจึงมีพื้นฐานความรู้อยู่บ้าง ทางครอบครัวบิดา-มารดาก็สวนอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยมาติดต่อขอเช่าพื้นที่ประมาณ 2 งาน ที่บริเวณริมถนนสายสุราษฎร์-พุนพิน เปิดเป็นร้านจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับและจัดสวนทั่วไป เมื่อมาเปิดร้านแรกๆก็ประสบปัญหาการขาดทุนเนื่องจากขาดความรู้เรื่องการค้าการขาย เมื่อมีเพื่อนมาชักชวนเข้ารวมโครงการคนกล้าคืนถิ่น พร้อมกับอธิบายประโยชน์ที่จะได้รับจึงตัดสินใจเข้าโครงการอบรมเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม
ซึ่งก่อนออกจากงานประจำพ่อกับแม่ก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากแม่คิดว่าการทำงานเป็นลูกจ้างเขามันได้เงินรายได้ที่ตายตัวที่รับเป็นประจำ ประกอบกับรับงานจัดสวนไปด้วย ก็จะมีรายได้เข้ามาเดือนละ 4-50,000 บาท แต่พอเรามาทำอาชีพค้าขายต้นไม้ประดับอย่างเดียวรายได้ที่เคยได้ก็หดหายไป ในช่วง 3-4 เดือนแรกก็ประสบปัญหาขาดทุนล้มอย่างไม่เป็นท่า ต้นทุนหมดไปประมาณ 100,000 บาท แต่ก็ไม่ย่อท้อหาเงินมาลงทุนต่อ แต่ก็เจอการแข่งขันกันสูง เนื่องจากในตลาดไม้ประดับมีร้านค้าจำนวนมาก จึงตัดสินใจเข้าอบรมโครงการคนกล้าคืนถิ่น เพื่อเพิ่มเติมความรู้ หลังจากเข้าอบรมแล้วมีการรวมกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆมาได้ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีสมาชิกในกลุ่มจะเริ่มถอดใจจากปัญหาครอบครัวที่ไม่สนับสนุนให้ทำงานด้านการเกษตรตามแนวทางของโครงการ แต่ทุกคนในทีมกลุ่มปลาทวนน้ำสามารถฟันฝ่าอุปสรรคมาได้ด้วยการรวมทีมงานเป็นกลุ่มที่เหนียวแน่นลงไปช่วยเหลือกันลงมือทำสวนกันโดยไม่ปล่อยให้สมาชิกของกลุ่มทำงานคนเดียว จนทางครอบครัวแต่ละคนเห็นความสำคัญที่พวกเราช่วยเหลือกันไม่ทอดทิ้งกันจึงเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมของแต่ละคน
ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกับโครงการคนกล้าคืนถิ่นที่ได้เข้าไปอบรม 4 วัน 5 คืนนั้นทุกคน ได้รับความรู้ด้านการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปลูก การทำปุ๋ย การเลี้ยงสัตว์ พร้อมทั้งทางด้านการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพชีวิตของตัวเองและครอบครัว พร้อมทั้งได้กลุ่มเพื่อนใหม่ๆ มีการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิด และสิ่งสำคัญเมื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ตัวเองมีเวลาอยู่กับครอบครัว มีเวลาดูแล พ่อ-แม่และลูกๆ สร้างความอบอุ่นเพิ่มขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ทำงานกินเงินเดือนไม่มีเวลาดูแลคนในครอบครัวเลย จึงสามารถตอบโจทย์ให้กับชีวิตของตัวเราเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นยังนำความรู้ที่ได้รับนำมาปรับปรุงร้านค้าจำหน่ายไม้ประดับ โดยทำการปลูกพืชผสมผสานระหว่างไม้ประดับกับพืชผักบริโภคและพืชสมุนไพร ที่ประกอบด้วย สับปะรดสี พรม ชวนชมและเฟิร์น สวนพวกไม้ที่กินได้จะมี ผักไชยา เสาวรส ฟักข้าว ม่อน ขมิ้น และก็เลี้ยงไก่ ซึ่งไม้ทุกชนิดเราสามารถเพาะขยายพันธุ์ขึ้นมาเอง จึงทำให้ไม่ต้นทุนการลงทุนต่ำ สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเดือนละกว่า 10,000 บาท
ดังนั้นใคร่ขอเชิญชวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ สละเวลาหาโอกาสเข้าร่วมกับโครงคนกล้าคืนถิ่น เดินทางเข้ามาอบรมเรียนรู้นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันปัจจุบัน และในอนาคต โดยเฉพาะโครงการคนกล้าคืนถิ่นนั้น เขาสอนคนให้มีดำเนินชีวิตอยู่ได้ในทุกสภาวะ โดยใช้รากฐานเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวสร้างความเข้มแข็ง