น้องนุ้ยพลิกแผ่นดินบ้านเกิดทำไร่นาสวนผสมไร้สารเคมี
น้องนุ้ย สนิกถา พงษ์เสน่ห์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 4 บ้านนาท่อน ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เมื่อพ.ศ.2552 ได้เดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ไปหางานทำ มีความหวังว่าจะมีอนาคตที่ดีกว่าจะอยู่ที่บ้านดินแดนที่ราบสูง พื้นที่ห่างไกลความเจริญ จนไปได้ทำงานอยู่ที่บริษัทผลิตอาหารฝรั่ง ได้เงินเดือน 10,000 บาทเศษ ทำได้อยู่ 1 ปีเศษ รายได้ที่ได้แต่ละเดือนไม่มีเหลือเก็บ จึงตัดสินใจลาออก และในช่วงนั้น พ่อแม่ ก็แก่ชราแล้ว ไม่มีใครช่วยงาน จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน
ในช่วงแรก ๆ ก็ยังทำไร่ทำสวนตามบรรพบุรุษที่สืบต่อกันมา ทำไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ถั่วลิสง ในช่วงนั้นอยู่ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ราคาพืชผลทางการเกษตรก็ตกต่ำด้วย จึงรู้สึกท้อใจ จึงหาวิธีการปรับเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิต โดยได้เรียนรู้จากสื่อต่าง ๆ หันมาทำไร่นาสวนผสมเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ตรงไหนมีการอบรมเรียนรู้จะเข้าไปร่วมด้วย ไปหาอบรมเรียนอยู่หลายแห่ง จนได้มีความรู้วิธีการทำปุ๋ยหมัก จุลินทรีย์ ที่มีวัสดุอยู่ทั่วรอบตัวเราเอง จะไม่ใช้สารเคมีเด็ดขาด จึงตัดสินใจทำปลูกพืชผักสวนครัว ขุดบ่อเลี้ยงปลา ในพื้นที่ที่ดิน 10 ไร่ ส่วนชาวบ้านที่เห็นตนเองทำ ต่างพากันหัวเราะไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ตนเองปลูกพืชผักสวนครัวหมุนเวียนตลอดทั้งปี ปลูกทุกอย่างไล่ตั้งแต่ พริก มะเขือ จะปลูกมากกว่าชนิดอื่น พอถึงหน้าหนาวจะปลูกกะหล่ำปลี หมุนเวียนอยู่อย่างนี้ จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นไปชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงที่เห็นแล้วประสบผลสำเร็จ ต่างพากันมาอุดหนุนซื้อผลผลิตการเกษตรปลอดสารพิษ เพราะรสชาติหวานกรอบน่ากินกว่า มีความแตกต่างจากพืชผลที่ใช้สารเคมีอย่างชัดเจน คนที่เคยหัวเราะว่าจะเป็นไปได้เหรอ เดี๋ยวนี้ได้หันมาทำบริโภคผลผลิตทางการเกษตรของตนเอง และยังมาขอคำแนะนำเรียนรู้แล้วไปทำตามเป็นจำนวนมากแล้ว เพราะคนที่ใช้สารเคมีร่างกายมือเริ่มชา และยังเป็นโรคผิวหนังอีกด้วย
ต่อมาได้รับแนะนำจากเพื่อนคนหนึ่ง ได้แนะนำให้เข้าร่วมโครงการคนกล้าคืนถิ่น ที่ได้เห็นผ่านทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ คนกล้าคืนถิ่น จึงได้สมัครเข้าร่วมอบรม 5 วัน 4 คืน เป็นรุ่น 1/2558 ศูนย์ฟื้นภูมิไทย อยู่ที่อำเภอร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังจากที่ผ่านการอบรมมาแล้ว จึงได้ชักชวนเพื่อนบ้านเข้ามาทำโครงการไร่นาสวนผสมไร้สารเคมี ขณะนี้ได้รวมกลุ่มกับชาวบ้าน จำนวน 37 คนแล้ว โดยจะมีการอบรมเรียนรู้การทำน้ำหมักชีวภาพ จุลินทรีย์
การทำสูตรปุ๋ยยูเรียธรรมชาติ ได้แก่ ถั่วเหลือง สัปปะรด น้ำชาวข้าว น้ำตาลทรายแดง และจุลินทรีย์หน่อกล้วย
ส่วนยาฆ่าหญ้าสูตรเด็ดไม่เป็นอันตรายกับคนและสิ่งแวดล้อม เพราะประกอบด้วยสารธรรมชาติที่หาได้ง่าย ราคาไม่แพง ได้แก่ ต้นกล้วยสับละเอียด น้ำสะอาด น้ำตาลทรายแดง ยาคูลท์ ลูกแป้งข้าวหมาก ดินประสิว และด่างทับทิม
จนถึงขณะนี้มีเพื่อนบ้านได้เข้ามาขอร่วมเป็นเครือข่ายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะได้เห็นคุณค่าของการปลูกพืชผักปลอดสารพิษเคมี.