กล้ารู้ : องค์ความรู้ : การผลิตชมพู่ให้ได้สีที่เข้มและรสหวาน

การผลิตชมพู่ให้ได้สีที่เข้มและรสหวาน



ทำอย่างไรผลไม้ของเราจึงจะหวานและสีสันสวยงามสดุดตา

ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักกับสิ่งที่เรามีอยู่ในมือก่อน ว่าเราสามารถปรับใช้ในความเป็นจริงได้แค่ไหน ในกรณีของตัวผมเอง ชอบปลูกชมพู่ เลยพยายามหาข้อมูล และวิธีการต่างๆ..ในการผลิตชมพู่ที่ปลอดภัยและไม่ใช้สารเคมีในการผลิตเลย..สิ่งแรกที่คุณต้องคิดก่อนจะผลิตคือผลิตมาคุณกล้ากินมั๊ยกินแล้วมันดีมั๊ย กินแล้วอร่อยมั๊ย มีผลต่อสุขภาพของคุณอย่างไร สิ่งต่างเหล่านี้จะพาคุณมาสู่คำตอบ  สิ่งแรกที่ผมคิดได้คือเราต้องใช้ปุ๋ยจากธรรมชาติ นั่นคือ มูลสัตว์ แต่มูลสัตว์ก็มีธาตุอาหารที่แตกต่างกันเราจะใช้อย่างไร คิดง่ายๆกินพวกใบพืชให้ไนโตรเจน แต่ถ้ากินลูกกินผลให้ ฟอสฟอรัส และ โปรเตสเซี่ยม งั้นเรามาเริ่มกันเลย  ในช่วงแรกที่ผลไม้ยังไม่ติดผล(ในกรณีผมคือชมพู่) ผมจะให้ขี้วัวเป็นหลักร่วมกับอาหารเสริมทางใบ นั่นคือน้ำหมักจากกากมะพร้าว พอถึงช่วงใกล้ฤดูกาลก็จะปรับมาให้ขี้ไก่ก่อนช่วงชมพู่จะติดดอก ในระหว่างนี้ อาจจะให้ฮอร์โมนน้ำหมักผลไม้ฉีดพ่นทางใบร่วมก็ได้ พอถึงช่วงที่ติดดอก ไม่ใส่ไม่พ่นปุ๋ยหรือฮอร์โมนทุกชนิดเพราะจะทำให้ดอกร่วง หลังจากนั้นเมื่อดอกชมพู่บานและทิ้งเกสรประมาณ5วันก็เริ่มห่อผล หลังจากนั้น1สัปดาห์ผมจะให้ขี้ไก่ผสมขี้แพะ โรยรอบๆโคนต้นราวๆครึ่งกระสอบ ในระหว่างนี้จะมีการโรยเกลือ และการฉีดพ่นฮอร์โมนจากน้ำตาลมะพร้าว... ผ่านไป10วัน ใส่ปุ๋ยขี้ไก่และขี้แพะอีกครั้ง และรดบริเวณรอบโคนต้นด้วยปุ๋ยนมสด จากนั้นก็โรยเกลือ แล้วงดน้ำ7วันก่อนเก็บผลผลิต ในกรณีการฉีดพ้นผมใช้น้ำส้มควันไม้เป็นสารจับใบเพื่อให้ฮอร์โมนได้ผลดีขึ้น ส่วนเรื่องแมลงไม่ต้องกังวลเพราะเราห่อผล อาจจะมีหนอนเจาะสมอฝ้ายรบกวนบ้างแต่ก็น้อย.. เท่านี้เราก็จะได้ผลไม้ที่หวานและสีสันสวยงามอีกด้วย

ถ้าใครมีข้อมูลดีๆก็เข้ามาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ

#โมเดลสายฝน



โดย ศดานนท์ ทองฤทธิ์นุ่น

  • คนกล้าพัทลุง
  • เว็บไซต์ :
  • Facebook : นายสายฝน ในฤดูร้อน