ก่อนจะเข้าโครงการคนกล้าคืนถิ่นข้าพเจ้ามีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ร่วมกับเพื่อนและทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่อสู้สิทธิ์ของผู้ปลูกต้นไม้และได้ร่วมกับโครงการธนาคารต้นไม้ของภาคประชาชน เคยลองปลูกข้าวโพดแล้วมีแต่หนี้เลยเลิกทำ เคยทำเกษตรเคมีเชิงเดี่ยวไปไม่รอด และเห็นหนี้สินเกษตรกรเห็นการบุกรุกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ขึ้นไปเรื่อยๆเพื่อใช้ทุนที่ไปเอาเงินนายทุนมาหวังว่าจะปลดหนี้ให้ได้ยิ่งทำยิ่งถลำลึก เลยหาเข้าร่วมโครงการต่างๆหลายโครงการเพื่อหาทางออกแทนแล้วก็ผลิตซำ้ความล้มเหลวเหมือนเดิม
หลังจากได้มีโอกาสเข้ามาร่วมเป็นชุดปฏิบัติการ (ชป.) พ่อบ้านและพี่เลี้ยงของโครงการคนกล้าคืนถิ่นได้สะสมแนวคิดกระบวนการปฏิบัติที่สำคัญมาใช้ชีวิตอย่างลงตัว เช่น
- การเริ่มต้นจากสิ่งที่มี
- การจัดการพื้นที่
- การจัดการแผนการปลูก
- การจัดการผลผลิต
- การสร้างเครือข่าย
- คิดทำด้วยตัวเองลองผิดลองถูก
จึงขอขอบคุณโครงการคนกล้าคืนถิ่นที่ให้โอกาสได้ร่วมโครงการถึง 4 ปีเต็ม ครอบครัวมีความสุขอยู่กันพร้อมหน้าอยู่กับวิถีชีวิตเดิม อย่างพอเพียงมีความสุข”
“อยากบอกว่าอาชีพเกษตรเป็นอาชีพที่ดีที่สุดสำหรับหลายๆคนและผม แต่ต้องมีใจรัก การทำเกษตรไม่ใช่เรื่องยากและไม่ง่ายสำหรับ คนที่ไม่มีใจ ความรู้ทักษะมากมายในไอที (internet) และที่สำคัญต้องมีเครือข่าย”
บทความจาก: เรื่องราวที่ดีจากคนกล้าคืนถิ่น…ถึงคนรุ่นใหม่ หนังสือบทเรียนพื้นที่ต้นแบบ การพัฒนาธุรกิจเกษตรของเกษตรกรรุ่นใหม่