พี่ขวัญ บุญยฤทธิ์ ทองแสง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 1 บ้านห้วยส้ม ตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย หนุ่มแห่งแดนที่ราบสูง เมื่อ 24 ปีที่แล้วออกจากบ้านเกิด ไปเสี่ยงโชคทำงานในเมืองหลวง ที่กรุงเทพมหานคร งานในตำแหน่งครั้งแรก คือ พนักงานทำความสะอาดตามห้างสรรพสินค้า ทำอยู่หลายแห่งได้ค่าแรงวันละ 160 บาท แต่ก็สู้กับค่าครองชีพที่สูงลิ่วไม่ไหว จึงเปลี่ยนงาน ทำจนเป็นถึงระดับผู้จัดการบริษัทรับเหมา รับงานเชื่อมเหล็ก โครงหลังคา ทำได้อยู่ 3 ปีเศษ แต่ก็ไปไม่รอด หันไปประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ แต่ก็พออยู่ได้ ไม่มีเงินเหลือเก็บ
ต่อมาได้รับการติดต่อจากพี่สาวคนหนึ่งแนะนำเข้าร่วมโครงการคนกล้าคืนถิ่น เห็นผ่านทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ คนกล้าคืนถิ่น จึงได้สมัครเข้าร่วมอบรม 5 วัน 4 คืน เป็นรุ่น 1/2558 มีเพื่อนผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ 43 คน ดูจากเนื้อหาของโครงการฯแล้วน่าสนใจ เพราะเคยมีความรู้ด้านการเกษตรอยู่บ้าง ตามวิถีชีวิตที่ทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่อยู่แล้ว แต่วิถีชีวิตการทำเกษตรมีการใช้สารเคมีกันอย่างมากมาย จึงหันมาปรับเปลี่ยนวิธีการทำเกษตรแบบใหม่ตามที่ได้อบรมมา นั้นคือ หันมาใช้ปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ ที่ทำขึ้นเอง จากวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น ที่มีอยู่ตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ปัญหาอุปสรรคที่พบก็คือ เรื่องของธรรมชาติ ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ผลผลิตไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ แต่ก็ได้รับการแก้ไข ได้รับการแนะนำจากเพื่อน ๆ ที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยการปลูกพืชทนแล้งจะช่วยได้ นั้นก็คือ กล้วย และไผ่ เป็นต้น จนขณะนี้ให้ผลิตผลแล้ว
จากการทำงานที่ขยันขันแข็งต่อสู้อยู่ในเมืองหลวง หันกลับมาขยันทำงานอยู่ที่บ้านเกิดของตนเอง จึงทำให้มีเวลาเป็นของตนเองมากขึ้น ไม่ต้องมีใครมาสั่งงาน เช้าตอกบัตรเข้า เย็นตอกบัตรกลับ อยู่ที่บ้านอยากจะมีอะไรก็ทำเป็นชีวิตที่มีส่วนตัวมากขึ้น และจากการเข้าร่วมโครงการคนกล้าคืนถิ่นได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้กันทั้งภาคปฏิบัติและทฤษฎี สิ่งที่ไม่เคยรู้ก็ได้รู้ แล้วนำมาปฏิบัติก็ได้ผลจริง ๆ
สำหรับบริเวณที่ดิน จำนวน 53 ไร่ ได้ทำเป็นแบบไร่นาสวนผสม การแบ่งพื้นที่ที่ดินมีให้เหลือสภาพป่าไม้เต็งรัง เหลือไว้เป็นธรรมชาติส่วนหนึ่ง เพราะจะมีเห็ดหลากหลายชนิด มีให้เก็บขายตามฤดูกาล นอกจากนั้นได้แบ่งที่ดินทำ ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง ไผ่เลี้ยง ขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกไม้ผลหลายชนิด และปลูกพืชผักสวนครัว เช่น ข่า ตะไคร้ ผักบุ้ง ต้นหอม หมุนเวียนขายตลอดทั้งปี โดยในพื้นที่จะไม่มีสารเคมีอย่างเด็ดขาด ใช้ปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ ผลผลิตที่นำออกมาขายให้กับชาวบ้านในราคาที่ไม่สูงมากจนเกินไป จนเป็นที่รู้จักของเพื่อนบ้านต่างๆ พากันสั่งจองล่วงหน้า เพราะต่างพากันทราบว่าเป็นพืชผักที่ปลอดสารพิษ บริโภคแล้วสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีการสารพิษในร่างกาย และเริ่มมีเพื่อนบ้านหลายรายที่สนใจได้เข้ามาสอบถามของการทำเกษตรแบบไร้สารพิษ เพื่อนำไปใช้ในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งตนเองก็ไม่ได้หวงวิชาได้แนะนำให้นำปฏิบัติแล้วจะได้ผลจริง ๆ วิถีชีวิตการทำเกษตรแบบไร้สารพิษ.