นางสาวมนัสนันท์ ม่านสนิท อายุ 49ปี เป็นคนที่เกิดมาในครอบครัวที่เป็นเกษตรกรแต่ด้วยความคิดของพ่อแม่ที่คิดว่าอาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพที่ลำบากอยากจน อยากให้ลูกๆมีชีวิตที่ดีการตนเองจึงส่งเสียให้ลูกเรียนสูงๆเพื่อจะได้เป็นเจ้าคนนายคนลูกจะได้สบายกว่าตนเอง
ซึ่งจากความคิดของพ่อแม่ที่พลัดลูกๆออกจากพื้นที่ทำกินของพ่อแม่ไปสู่การดิ้นรนขนขวยงานเงินทำงานๆหาเงินใช้เงินเป็นตัวชี้วัดความสุข จึงทำให้เราต้องทำตัวเหมือนหุ่นยนต์เคลื่อนที่ทุกๆวัน ตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ตอนเย็นเลิกงานกลับบ้านอาบน้ำนอนเหมือนกับการถูกบันทึกให้ทำตามโปรแกรมที่เขาตั้งไว้ เมื่อเราทำเป็นไปจนเป็นกิจวัตประจำวันทำให้เรามี
ความรู้สึกว่าที่เราทำๆอยู่นี้ทำเพื่อใคร ทำเพื่อตนเอง เพื่อครอบครัวจริงๆหรือไม่ เมื่อเราอายุมากขึ้นบริษัทจะจ้างเราให้เป็นภาระของเขาหรือไม่เมื่อ4ปีที่แล้วได้มารู้จักกับ ม.ชีวิต ได้เข้า ร่วมการจักขบวนการเรียนรู้ได้ปรับแนวคิด ปรับกระบวนทัศน์ และมีการ วางแผน ตั้งเป้าหมายให้กับตนเองโดยผ่านการทำโครงงานพัฒนาอาชีพ ข้าพเจ้าจึงได้ทำโครงงานปลูกสะเดา ทวายสร้างรายได้เสริม โดยใช้หลักการวางแผน ตั้งเป้าหมายของชีวิตว่าเราต้องการอะไรเงินหรือความสุขเมื่อได้เริ่มโครงงานทำให้เราได้รู้ว่าความสุขสร้างได้ด้วย มือเรานั้นคือการทำอาชีพเกษตรกรของพ่อแม่ที่เป็นอาชีพดั้งเดิมของเรา จากการทำโครงงานที่ต่อเนื่องทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตที่เรียบง่ายไม่ต้องดิ้นรนไม่ต้องวิ่งตามความวุ้นวายในตัวเมืองทำให้เราทีความสุขแบบนี้เองและเมื่อได้มาเข้าร่วมโครงการ”คนกล้าคืนถิ่น”จึงได้ทำโครงการต่อ ยอดจากโครงงาน
ที่ทำอยู่โดยได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนๆที่เข้าร่วมโครงการและคำแนะนำจากอาจารย์พี่เลี้ยงในการเดินหน้าทำโครงการเพื่ออนาคตของตนเอง
เมื่อมองเห็นความสำคัญเพราะหลังจากที่บริษัทเลิกจ้างเราจะได้มีแหล่งอาหารและเหลือกินก็ขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัว แต่สิ่งที่เราได้มากกว่าเงินที่เป็นรายได้คือความสุขที่ได้กลับมาอยู่บ้านเกินอยู่แบบเรียบง่ายมีอยู่มีกินในถิ่นของตนเองและมีพี่น้องเครือข่ายในโครงการคนกล้าคืนถิ่นที่มีจุดประสงค์และอุดมการณ์ร่วมกัน
นางสาวมนัสนันท์ ม่านสนิท
อบรมรุ่น 1/58 ค่ายเปรมติลสูลานนท์ บ้านบ่มเพาะ ศูนย์ฟื้นภูมิไท จ.กาฬสินธ์
กลุ่ม คนกล้าสานฝัน
สมุดเยี่ยม มาเยี่ยมเยือน ตามแบบคนกล้าคืนถิ่น
ตอนที่3 เคล็ดลับแห่งความสำเร็จของ ข้าว1ไร่ตัน7 ****กอล์ฟ กอล์ฟ กอล์ฟ เสียงผู้ใหญ่นิรันดรทัก เอารูปนี้ด้วย คือภาพที่รับปนิญญาคู่กับพี่แต๋ว คนกล้ารุ่น1 และผมก็ได้ภาพเบื้องหลังความสำเร็จแล้วร้องอ๋อในใจ ผมเชื่อว่าภาพคงแทน สื่อความหมายของ ความเข้าใจในวิถีเกษตรอินทรีย์ดียวกัน ทำเหมือน คล้าย เข้าใจตรงกัน เป็นแรงผลักดัน ให้เกิดสิ่งดีงาม ร่วมกัน อย่างเข้าใจ ระหว่างเดินดูแปลงข้าวเกือบมืด ช่วงเวลาแค่ 1ชม. พี่แต๋วก็เดินนำ เสียบยอดสะเดาทวาย (ออกดอกมั้งปี ขมไม่มาก) ใช้เวลาแป็บเดียวได้ตั้ง 6-7ยอด ทำด้วยความรัก ใส่ใจ ความสุข ทำง่ายๆ แม้เวลาน้อยนิด และทุกวันนี้พี่แต๋วก็ยังทำงานประจำคู่ขนานตลอด เป็นอันตอบโจทย์ชีวิตที่อยู่ในวิถีเกษตร แบบสบายๆด้วยความสุข พร้อมคนรู้ใจ ***หนาวนี้ เราจะไปเกี่ยวข้าวกันแล้ว ติดตามกันว่าปีนี้กี่ตัน... ###คนกล้าคืนถิ่น ###คืนถิ่นคืนฐานสืบสานชุมชน
มาเยี่ยมเจอหาพี่แต๋วที่อุดร สบายดี ยังอยู่ในวิถี คู่กับทำงานประจำ